Dirty Dancing (US,1987)

Joe Readery
Apr 23, 2021

--

การเต้นมันเป็นเรื่องของการไว้ใจคู่เต้นเนอะ การมีใครอีกคนที่เคลื่อนไหวไปตามจังหวะเดียวกัน แต่ต่างคนก็ยังเป็นตัวของตัวเอง มันสุดยอดมากเลย ความรักมันก็เป็นอย่างนี้

เรื่องราวของคุณหนูใสๆ ชื่อเบบี้ ไปเที่ยวรีสอร์ตหรูริมทะเลสาบกลางหุบเขากับครอบครัว แต่ไปสะดุดตกหลุมรักครูสอนเต้นรำหนุ่มเฮี้ยวสุดฮ้อต มันจึงกลายเป็นเรื่องรักต่างชนชั้นเบๆ นั่นแหละ…แต่

แต่ทำไมนะ มันยังเป็นหนังที่ผู้คนปัจจุบันนี้ยังจำได้และพูดถึงมันอยู่เลย วันนี้ได้ดูอีกรอบก็เข้าใจเพราะเห็นถึงพลังหนุ่มสาวหน้ากล้องหลังกล้องที่อัดแน่นๆ อยู่ตรงหน้า รู้เลยว่ามันคือหนังสุดทะเยอทะยานเรื่องหนึ่ง ข่าวว่าต้องถ่ายหนังทั้งเรื่องให้เสร็จภายในสองสัปดาห์ โคตรโหด

ดูก็รู้ว่าเป็นหนังทุนต่ำต้อยเรี่ยดิน ว่ากันว่ากว่าจะได้ทุนมาสร้างที่ถูกปฏิเสธไปเกือบสามสิบสตูดิโอเลยนะ จนสุดท้ายมาลงเอยที่ค่ายวิดีโอ Vetron ที่ตอนนั้นยังไม่เคยสร้างหนังเลย ผู้กำกับก็กำกับหนังใหญ่เรื่องแรก พระเอกนางเอกก็เคยแต่เล่นเป็นตัวรองๆ เรื่องอื่นมา แต่ทำไมมันถึงมีพลังดาเมจรุนแรงจัง ผมว่าเป็นเพราะฮอร์โมนส์ของทุกคนในทีมงานนั่นแหละ

Dirty Dancing เต้นยั่วน้ำหมากกระจายเรื่องนี้ ลำพังชื่อเรื่องก็เหมือนหนังโป๊เกรดบีอยู่แล้ว เจอคอสตูมสาวถกกระโปรง นมๆ หล่นๆ กับหนุ่มๆ ถอดเสื้อโชว์แผงอกและกางเกงรัดรูป นี่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่วูบแรก กบว.ฝรั่งให้เรต R แต่ทีมงานก็ไฝว้จนจบที่ PG16 จนได้ คนสมัยก่อนมันจะเกลียด Sex อะไรนักหนาวะ เอาจริงมาดู พ.ศ.นี้ขำกลิ้งอ่ะ โป๊ไรของมรึงฟระ 555

ผมว่าหนังมันติดอยู่ในใจคน เพราะประเด็นของหนังมันน่าสนใจมากเลยไงว่า คนที่เรารักก็คือคนที่เราไว้ใจ ไม่ว่ามันจะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณหนูกิงก่องแก้วพ่อรวยและหวงมาก กับครูเต้นรำหนุ่มติ๊บดกที่ออกสเตปเมื่อไหร่ฟลอร์เป็นร้อนฉ่า สองคนนี้มันรักกันไม่ได้ มันผิดผี ก็เธอนั้นมันคนละชั้น

แต่เพราะเขาสองคนไว้ใจกัน จากการต้องฝึกซ้อมเต้นด้วยกัน มันก็รักกันจนได้ เอาจริงเป็นหนังที่พล็อตบางมาก แต่คอนเซ็ปต์มันดีไงคุณหนูถกกระโปรงเต้นแมมโบ้นี่มันบ้าบิ่นใช้ได้

ผมได้เรียนรู้การทุ่มเททำงานที่รักจากหนังเรื่องนี้ ว่าทีมงานทุกคนต้องทุ่มสุดตัว เช่นมีเรื่องเล่านึงคือ นี่คือหนังเต้นใช่ป่ะ มันก็ต้องมีเพลงประกอบว้าวๆ ใช่ป่ะ แต่จนกระทั่งถึงคิวถ่ายฉากฟินาเล่ เพลงยังทำไม่เสร็จจ้า แล้วทีมงานทำไงรู้ป่ะ เขาให้นักแสดงจำนวนเป็นเป็นร้อยเลยนะ เต้นเปล่าๆ กับไอ้เจ้าเมตโทรโนม เครื่องจับจังหวะติ๊กต่อกๆ ซ้ายขวาซ้ายไปเรื่อย โดยไม่มีเพลงอ่ะ แล้วมันเป็นฉากที่ออกมาดีมากๆ

จบสวยมากๆ ไอ้ฉากที่พระเอกยกตัวนางเอกบินขึ้นเหนือหัวฉากอมตะฉากนั้นอ่ะ เรื่องมันบิ้วมาจนทำผมน้ำตาไหลได้เลย และถ้ายิ่งได้รู้ว่านั่นคือเทคสุดท้ายที่พระเอก แพทริค สเวซี่ จะทำได้แล้วเพราะเข่าบาดเจ็บสาหัส ผมว่ามันคือมหัศจรรย์ของคนที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ

--

--

Joe Readery
Joe Readery

No responses yet