The Man with the Answers (Greece-Germany,2021)
ถ้าชีวิตจริงผมจะมี Road Trip ข้ามประเทศอิตาลีบ้างก็คงหน้าตาแบบสองหนุ่มในเรื่องนี้แหละ
เอาจริงมันไม่ได้เป็นหนังซับซ้อนอะไรนักหรอกนะ แต่เป็นหนัง Summer Love ที่กระจายความสดชื่นของความรักแรกหนุ่มมากกกก มันแบบว่า อุ๊ย รักระหว่างทาง ค่อยๆ ก่อตัวจากคนสองคนที่ต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งตึงๆ จริงจังขรึมขัง อีกคนลั่นล้า เฟรนด์ลี่ มองโลกในแง่บวก สองคนนี้ก็เหมาะกันสุดๆ อ่ะ คนดูเชียร์สุดตัวว่าเมื่อไหร่จะได้กันเพคะ เขาเหมาะสมกันจริงๆ อ่ะ
ฉากประทับใจคือฉากง้อกันด้วย Potatoes Chips หลังจากเหวี่ยงกระเป๋าระเบิดอารมณ์ถีบลงจากรถ ขับหนีไปซะไกลแล้วค่อยมารู้ตัวว่าลืมหัวใจไว้ที่เขาจนต้องกลับไปตามหาอ่ะ แล้วจังหวะของหนังมันก็ทำให้เราใจแป้วไปด้วย เออ ใจอ่อนกับอะไรแบบนี้ มันสมจริงซะจนเห็นภาพสองหนุ่มตรงนั้น เป็นสองหนุ่มตรงนี้ ฉากขอโทษแบบไม่ต้องพูดขอโทษ และจบลงที่ซบอกกันเบาๆ ที่ป้ายรถเมล์พังๆ ในเมืองบ้านนอกอิตาลี่ นี่แม่งโคตรเหมือนจริง
ชอบสีในหนังมากๆๆๆๆๆ ตอนเริ่มที่นายเอกวิคเตอร์ยังอยู่ที่กรีซ สีมันจะสับสนๆ หน่อยๆ มีสีผสมหลากหลาย แล้วมันค่อยๆๆ กลืนเข้าหากันจนกลายเป็นสีสุดท้ายคือสีฟ้าน้ำทะเล ภาพจบที่ทุกคนนั่งอยู่นอกบ้านมองผ่านกรอบหน้าต่างดูคล้ายภาพโฟโต้อาร์ตครอบครัวอบอุ่น ที่โหอาร์ตไดแม่งเก่งโคตร มันสวยมากอ่ะ กับการตีความให้ความรักสีฟ้า แบบวุ้ย อิจฉาโว้ย
เรื่องมันก็ประมาณยามเมื่อลมพัดหวนอ่ะนะ ฉบับ On the Road ของสองหนุ่ม หนุ่มแรกหนุ่มกรีก วิคเตอร์ อดีตนักกีฬากระโดดน้ำเหรียญทอง ที่ตอนนี้ไม่ได้แข่งแล้ว ต้องดูย่าที่ใกล้ตาย พอย่าตายก็เลยรื้อรถเก่าบุโรทั่งข้ามเรือเฟอรี่ไปอิตาลี่ เพื่อไปต่อยังเยอรมัน
วิคเตอร์เจอมัทธีอัสจังหวะไม่ดีเลย คือหนุ่มเยอรมันหน้าใสซื่อกำลังขโมยแซนด์วิชไส้กรอกแปะๆ ราคา 5 ยูโรบนเรือ 55 แล้วจะให้ตอบรับคำขอติดรถของมันไปได้ไงอ่ะ คนแบบนี้ แต่สุดท้ายเพราะเมจิคแห่งรัก นางก็ต้องปลดล็อคเปิดประตูเชิญหนุ่มแปลกหน้ามานั่งข้างกันในรถเก่าหลักร้อย ข้ามผ่านวิวประเทศอิตาลีหลักล้าน ตั้งแต่ตอนใต้ขึ้นเหนือยันไปถึงเยอรมันบ้านแม่จนได้
หนังเรื่องนี้เหมือนทำความฝันหนึ่งของเราสำเร็จคือ เราอ่ะ อยากมาก อยากมากๆ ที่จะเขียนนิยายวายสไตล์ Before Sunrise อ่ะ แบบสองหนุ่มเจอกันตอนเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว หลังจากสแกน MRI สมองอีกฝ่ายด้วยความรู้เรื่องวรรณกรรม ศิลปะ ภาพยนตร์ ดนตรีผ่านเกณฑ์ ทีนี้ก็ฟาดก้นตึงๆ กันด้วยปาร์ตี้ คลับบาร์ ครัวซอง และกาแฟเอสเพรสโซ่ตอนเช้า ระหว่างทางก็แง่งอนขว้างปาข้าวของใส่กันนิดหน่อย ตบหน้าด้วยหนังสือของ Proust แต่สุดท้ายก็นอนซบอกคืนดีกันตอนที่วิทยุมีเพลง Lover’s Moon เวอร์ชั่น Morrissey
สรุปเป็นหนังที่อย่าคาดหวังเยอะ คิดซะว่าสองหนุ่มเขาให้เรานั่งเบาะหลังติดรถเขาไปเที่ยวอิตาลี่ ภูเขาเขียวๆ ทะเลสาบตอนฤดูใบไม้ผลิ แวะกินแซนด์วิชจาก Food Truck แวะเที่ยวงานแต่งงานใครไม่รู้ นอนโรงแรมริมทางเล็กๆ น่ารัก พร้อมกับมีหนุ่มตื่นก่อนเพื่อไปหาซื้อครัวซองกับลาเต้ร้อน มาชวนเราไปนั่ง Breakfast กันกันริมลำธาร คือถ้าดูหนังแล้วได้ฟีลหมดนี้ ยังจะต้องการอะไรอีก ว่ามะ 555
วันบางวันก็ขออะไรคิ้วๆ บ้างเหอะ