Spencer (UK, 2021)

Joe Readery
Dec 30, 2023

--

“ออกไปก่อนเถอะ ฉันคิดว่าฉันจะมาสเตอร์เบตสักหน่อย”

ว้าว นี่เราไม่ได้หูแว่วไปใช่ไหมที่ได้ยินประโยคนี้ออกมาจากปากเจ้าหญิงไดอะน่าเลยนะ สุดมาก

หนังเองก็โคตรเจ๋งเลยที่เขาสามารถทำให้เราเข้าไปอยู่ในหัวของไดอะน่าได้แป้ปนึง ไปเข้าใจเธอว่า มันอึดอัดกับทุกสิ่งรอบตัวในพระราชวังนั่นมากระดับที่ฆ่าตัวตายได้เลย และพอเราเริ่มเป็นไดอะน่า เราก็หันกลับมามองเห็นความอึดอัดในชีวิตและพระราชวังของตัวเองเช่นกัน หนังดีๆ ทำงานอย่างนี้เอง

หนังเล่าเรื่องราว 3 วันช่วงเทศกาลคริสต์มาสของราชวงศ์ที่มีกฎระเบียบหยุมหยิมซึ่งถูกบัญญัติไว้ตั้งแต่อดีตกาลโดยกษัตริย์คนนั้นคนนี้ ซึ่งมันประจวบกับช่วงที่ไดอะน่าจับได้ว่าสามีปันใจให้ผู้หญิงอีกคน

นี่คือเรื่องราวตอนจบของเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้งหลายซึ่งไม่เคยมีใครเล่าต่อว่า หลังจากเจ้าหญิงได้แต่งงานกับเจ้าชาย ทุกอย่างก็อาจจะดู Happily Ever After ได้สัก 10 ปี แล้วเขาและเธอก็จะเกลียดและหย่ากันนะเด็กๆ

เราว่าเรื่องต่างๆ ของไดอะน่าเป็นรอยคั่นระหว่างอดีตกับอนาคตได้ดีมากๆ เลย เหมือนว่าถ้าเรายังมัวยึดติดกับอดีตแบบติดมากๆๆๆๆ มันจะหักลงสักวันถ้าเราไม่ปรับตัวให้เข้ากับกระแสชีวิตที่เลื่อนไหลไปเรื่อยๆ สู่อนาคต

ชอบสัญลักษณ์ต่างๆ ในหนังมากเลยอ่ะ ชอบจริงๆ นะ เช่น หมวกตาข่ายสไตล์อังกฤษที่ไดอะน่าใส่ไปโบสถ์ พอตากล้องถ่ายเน้นโคลสอัพหน้าสวยๆ ภายใต้ตาข่าย มันดูยังไงก็เป็นกรงขังดีๆ นี่เอง สุดมาก

ชอบ Montage ภาพตัดไปตัดมากับไดอะน่าในชุดเริ่ดๆ สุดโด่งดังที่เหมือนเป็นช่วง Tribute ให้เสื้อผ้าเหล่านั้นที่เราคุ้นตา แต่มันกลับสะท้อนภาพความอลม่านในใจเธอได้ดีมากๆ

หนังมี opening image กับ ending image ที่เป็นเหมือนที่คั่นหนังสือบนชั้น นั่นคือภาพไดอะน่าขับรถเปิดประทุน ภาพแรกเธอกำลังขับรถไปวังและกำลังหลงทาง ใช่ครับ นี่คือหนังที่กำลังจะเล่าเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งกำลังหลงทางของชีวิต หาทางออกไม่เจอ แต่ในขณะที่ภาพจบ เธอกำลังขับรถออกมาจากวังอันหรูหราแห่งนั้น พร้อมลูกชายทั้งสอง ด้วยความรู้สึกที่เพลง All I Need Is Miracle ของวง Mike+The Mechanics ได้อธิบายไว้แล้วทั้งหมด

ชอบภาพ Outdoor หมอกขาวๆ หนาๆ เหงาๆ ของหนังมากกกกก มันชวนให้อยากดูหนังเหงาๆ เรื่องอื่นต่อเลย ยิ่งประกอบกับเพลงแจ๊ซหวานๆ แต่ยุ่งเหยิงๆ ของ Jonny Greenwood มันเป็นประสบการดูหนังอันเพลิดเพลินเจริญใจมาก

ชอบที่หนังไม่ได้เบลมใครเลย ไม่ทำให้เราเกลียดใครในหนังเลยแม้แต่คนเดียว แต่ให้เรามองแล้วสะท้อนกลับมามองตัวเองว่า เรายึดติดกับอดีตมากจนเกินไปหรือไม่ มุขตลกที่อาจจะเคยทำให้เราหัวเราะเป็นร้อยปีที่แล้ว มันกลายเป็นภาระหน้าที่แต่เพียงอย่างเดียวไหม คำว่าบ้านของเรามันยังเป็นสถานที่แห้งรกร้างผุพัง เรายังมีที่ๆ เรียกว่าบ้านให้กลับไหม และช่วงเวลาที่เราร้องไห้เจ็บปวด สร้อยไข่มุกราคาแพงเส้นนั้นมันพันธนาการเราไว้จนหายใจไม่ออกหรือเปล่า

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราไม่ได้คาดหวังตอนแรกว่าจะได้จากหนังราชวงศ์อังกฤษอีกแล้วเรื่องนี้ ทีแรกก็ว่า ว่าจะทำอีกทำไมนะ อ้อ เพราะมันยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้เล่าอยู่ในเรื่องที่ใครๆ ก็เคยได้ยินนี่เอง หนังเรื่องนี้ทำหน้าที่ของมันได้สมบูรณ์จริงๆ ครับ ประทับใจนะ

--

--

Joe Readery
Joe Readery

No responses yet