Nomadland (US,2020)

Joe Readery
Apr 27, 2021

--

ข้อแรก อยากพูดก่อนกันลืม นี่คือหนังที่ถ่ายสวยมากถึงมากที่สุด สีขุ่นๆ ของท้องฟ้า ทะเลทราย ภูเขา หิมะ ต้นไม้ ถนน โอยมันสวยสุดยอดไปเลยครับ

เรื่องราวของ เฟิร์น ผู้สูญเสียทุกสิ่งในชีวิตไปจริงๆ แม้แต่เมืองที่เคยอยู่ก็ถูกสั่งปิดทั้งเมืองเพราะปิดโรงงาน หมดอาชีพ เพื่อนฝูงกระจัดกระจาย และที่สำคัญสามีที่อยู่กันมา 30 ปีก็เพิ่งเสียชีวิตจากไป เฟิร์นตัดสินใจออกเดินทางและใช้ชีวิตแบบคนเร่ร่อนชาวรถแวน อาศัยอยู่ในรถ ย้ายที่นอนและที่ทำงานไปเรื่อยๆ

นี่คือหนังที่พูดถึงการพบเจอและลาจากที่ดีที่สุดที่ผมเคยดูเลยครับ ชีวิตไร้บ้านเป็นหลักแหล่งและอาศัยอยู่ในรถ ไปจอดนอนตามแคมป์ พบเจอเพื่อนใหม่รู้สึกดีกันอยู่สักพักหนึ่ง แค่ไม่นานนักเมื่อถึงวันหนึ่งต่างคนก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง คำว่า Goodbye ลาก่อนถูกพูดกันจนเป็นเรื่องปกติ อืม ชีวิตเราจริงๆ ก็เป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ

ชอบมากที่หนังทำให้ผมคิดเรื่องนี้ได้ เรื่องของการจากลาคนที่รัก ความตายมันพรากเราออกไปจากกันตลอดไปจริงหรือ ถ้าเราได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจว่า เรานั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยว แต่เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของโลก เมื่อเราตายเราแค่เปลี่ยนกลับไปอยู่กับวิญญาณแห่งโลก ก็เท่านันเอง

เมื่อเราต้องบอกลาใครสักคน มันไม่ใช่การบอกลากันชั่วนิรันดร์หรอกนะ เหมือนเส้นทางของนักเดินทางค้างแรมที่สักวันก็อาจจะกลับมาพบกันอีก ความตายก็เป็นอย่างนั้น มันแค่เป็นการจากกันเพียงชั่วคราว สักวันเราก็จะกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอีกแน่นอน

แค่เพียงเราได้รู้ว่า เรานั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินโลก และการที่เราจะเข้าใจ หรือจำสิ่งนี้ได้ บางทีเราต้องการการเดินทางไปนั่งมองท้องฟ้า ไปสัมผัสทะเลทราย ปีนป่ายภูเขาให้มากเท่าที่เราต้องการ เพื่อที่เราจะจำได้ว่า เราทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

ชีวิตของเฟิร์นน่าสนใจมากเลย ระหว่างเส้นทางเธอเจอจิตวิญญาณเสรีมากมาย ผ่านมา ผูกพัน และแยกจาก ความเศร้า ความเจ็บปวดเป็นเรื่องปกติ เฉกเช่นเดียวกับการได้ยิ้มด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน แบ่งปันสิ่งของร่วมกัน ถ้าเราต่างเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ทุกสิ่งที่เรามีมันแบ่งปันกันได้ง่ายมากเลย อย่าไปยึดติดกับสิ่งของใดเลย สักวันมันก็ต้องจากเราไป จงเป็นอิสระจากทุกสิ่งแม้แต่ร่างกายของเรามันก็แค่ Nomadland แผ่นดินผืนหนึ่งของนักเดินทางเท่านั้นเอง

ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นสิ่งชั่วคราว มีแต่เพียงเราที่เป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินโลกนี้จึงเป็นสิ่งที่นิรันดร์

ผมดูหนังเรื่องนี้ด้วยคำถามตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยว่า ผมจะเดินทางเร่ร่อนไปในโลกกว้างนี้ลำพังตัวคนเดียวแบบเฟิร์นได้ไหมนะ มันคงเหงาฉิบหายเลย ผมเอาใจช่วยเธอตลอดเรื่องเพราะคิดแทนเธอว่าคงรู้สึกเหงามากๆ แต่ฉากท้ายๆ ที่บนหน้าผาริมทะเลซึ่งคลื่นแรงจัด และฉากทะเลทรายเวิ้งว้างด้านหลังบ้านเก่า มันทำให้ผมเข้าใจได้ว่า คนเราถ้าจำได้ว่าเรานั้นเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ เราจะไม่มีวันโดดเดี่ยวเลย

หนังเตือนให้ผมกลับมา Connect กับชีวิตอีกครั้ง รักหนังเรื่องนี้มากถึงมากที่สุดครับ

--

--

Joe Readery
Joe Readery

No responses yet