Minari (Korea-US,2020)
เราคิดอย่างนี้นะ เราคิดว่าความฝันเป็นเมล็ดพันธุ์ที่พระเจ้าหว่านลงไว้ในใจเรา บางครั้งมันหล่นบนหัวใจที่แห้งแล้ง มันลำบากมากๆ ที่จะรดน้ำพรวนดิน บางครั้งมันหนักหนาจนเราถอดใจ แต่ถ้ามันเริ่มต้นมาจากพระเจ้า พระองค์จะเป็นคนทำให้มันเติบโตเอง
มินาริ เป็นวัชพืชที่คุณยายติดเอามาด้วยจากประเทศเกาหลี มันใส่อาหารอะไรก็อร่อย มีคุณสมบัติเป็นยาด้วย ปลูกง่ายขอให้ปลูกไว้ใกล้ๆ ที่มีน้ำ มันจะเติบโตขึ้นของมันเอง มันคือของขวัญที่คุณยายตั้งใจเอามามอบให้ทุกคนในครอบครัว
เจค็อบพาเมียกับลูกสาวลูกชาย ย้ายจากเมืองใหญ่ไปอยู่รัฐบ้านนอก เขาเลือกที่นี่เพราะดินที่นี่เป็นดินที่ดี เขาตั้งใจจะทำให้มันเป็นฟาร์มผักเกาหลี ในดินแดนอเมริกา
“จำได้ไหม ที่เธอเคยบอกว่าอยู่เกาหลีมันลำบาก เราไปอเมริกากันเถอะ”
“จำได้สิ แต่ถ้าเรายังอยู่ที่นี่ เราจะไม่เหลืออะไรเลย”
ผมว่า Minari เป็นเรื่องราวของความฝัน ความเชื่อ และก็ครอบครัว
นี่คือหนังครอบครัวอพยพ ซึ่งชีวิตคำว่าอพยพมันก็ลำบากคาดเดาได้อยู่แล้ว แต่นี่ เจค็อบ คุณพ่อยังต้องพาเมียกับลูกไปด้วยกันบนเส้นทางใหม่ ความกดดันมันเยอะฉิบหาย การจะปลูกอะไรสักอย่างซึ่งเริ่มจากที่ดินเปล่าๆ กว่าจะหาแหล่งน้ำ กว่าจะค่อยๆ ปลูกต้นกล้าทีละต้นๆ มันต้องใช้ความเชื่อผลักดันสิ่งนี้แค่ไหนกันนะ
กว่าจะเก็บเกี่ยวผลได้ มันใช้เวลานาน นานพอที่ความฝันจะกัดกิน และพังทลายคนรอบตัว มันก็อดสงสัยไม่ได้หรอกนะว่า ไอ้ที่เรายึดมั่นในความฝันมันคือความมุ่งมั่น หรือความดื้อดึงกันแน่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่คนที่เรารักที่สุด ก็หมดใจที่จะเชื่อเราต่อแล้ว แต่เราผู้ซึ่งมีความฝันที่ถูกหว่านลงในใจ จะเลือกละทิ้งความฝันเพื่อคนรักไหม แล้วที่เราอดทนอยู่นี่มันก็เพื่อความรักเช่นกันไม่ใช่เหรอ แล้วเราจะทำยังไงดี
ฟาร์มที่เจค็อบมุ่งมั่นปลูกมันขึ้นมา เจอปัญหาแบบที่ชาวไร่ชาวสวนจะต้องเจอเยอะมาก นี่ไม่นับว่าผลผลิตต่อให้ออกดอกออกผลแล้ว จะมีลูกค้าชื่นชอบไหม มันเป็นความฝันประเภทที่พร้อมจะบาดเจ็บได้ง่ายเหลือเกิน ในเวลาฤดูแล้งแห่งชีวิตนี้ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเราอยู่ที่ไหนกันนะ
ไร่ผักของพ่อในสายตาของ เดวิด ลูกชายคนเล็กที่ป่วยด้วยอาการหัวใจรั่ว มันก็น่าสนุกดี แต่ตอนที่คุณยายแก่ๆ เดินทางจากเกาหลีซึ่งคือที่ไหนบนแผนที่โลกก็ไม่รู้ เข้ามาอยู่ด้วยกันกับเขาเนี่ย เขาไม่ชอบเลย ยายมีกลิ่นเกาหลีเหม็นๆ ยายพูดคำหยาบ อบคุ้กกี้ก็ไม่เป็น แถมยังบังคับเขากินยาน้ำขมๆ แต่ชีวิตเขาก็มีแต่ยายเป็นเพื่อนแหละ
ยายพาเขาไปปลูกหญ้ามินาริ เขาก็คิดว่ามันสนุกดีที่ได้เดินเข้าป่าลึกเข้าไปอีกหน่อยที่แม่ห้าม ถ้าแม่รู้คงไม่ให้เขาซึ่งป่วยหนักเดินมาไกลแบบนี้ แต่ยายบอกโอเค เขาเป็น strong boy ภาษาอังกฤษเพียงไม่กี่คำที่ยายหัดพูด
“Minari, wonderful
Minari, wonderful”
เดวิดฟังที่ยายพึมพำตอนปลูกมินาริ และก็ฮัมออกมาเป็นเพลง มันทำให้เขากับยายสนิทกัน
สำหรับผม หนังเรื่อง Minari เป็นเรื่องราวของความมหัศจรรย์ของความฝันนะครับ ดูแล้วหึกเหิมมาก ผมเชื่อว่าทุกๆ ความฝันที่มีขึ้นในใจเรานั้น พระเจ้าเป็นผู้หว่านเมล็ดพันธุ์ลงไปในใจเรา แน่ล่ะทุกๆ ความฝันต้องถูกทดสอบด้วยความยากลำบากด้วยกันทั้งนั้น มันไม่เคยมีอะไรง่าย และในเวลาอันยากลำบาก สิ่งเดียวที่เรามีก็คือความเชื่อ แม้ในเวลานั้นจะไม่มีใครเชื่อเหมือนเราเลยก็ตาม
แต่ถ้าลึกๆ เรารู้ว่าความรักยังอยู่เคียงคู่กับความฝันนี้ ไม่ว่าแผ่นดินจะแห้งแล้งเช่นไร พระเจ้าจะเป็นคนทำให้ความฝันนั้นเติบโตเอง พระเจ้าเป็นความรักนะ
ป.ล.รู้เลยว่าหนังเรื่องนี้คือความฝันอันยากลำบากของพระเอกโพรดิวเซอร์ของหนัง Steven Yeun แต่ถ้ามันสำเร็จถล่มทลายขนาดนี้ อยากรู้จังอะไรคือมินาริของหนังชื่อเดียวกันนี้
