Kim Ji-young, Born 1982 (Korea,2019)
Kim Ji-young, Born 1982 (Korea,2019)
a.k.a. 82년생 김지영
เอาจริงๆ ผมก็ไม่กล้ามั่นใจหรอกว่าผมจะเข้าใจปัญหาของผู้หญิงทั้งหมด แต่หนังเรื่องคิมจียอง มีผัวเป็นกงยู นี่ก็ทำให้ผมเอะใจอะไรหลายๆ ประเด็นของผู้หญิงขึ้นเยอะเลย
คิม จี-ยอง เกิดปี ’82 เป็นเรื่องของภรรยาคนหนึ่ง ที่สามีเริ่มไม่แน่ใจว่าเธอกำลังโดนผีสิง หรือกำลังเครียดจากภาวะหลังคลอดลูก และเรื่องราวของหนังที่สร้างมาจากหนังสือก็ค่อยๆ ชวนเราเปิดประเด็นการที่ผู้หญิงถูกกดข่มโดยสังคมที่มองผู้ชายเป็นใหญ่
ความรู้สึกแรกหลังดูหนังจบคือ เหมือนเราตกหลุมรักคนๆ เดียวกันแต่มีสองบุคคลิกที่เราก็รักทั้งคู่ หนังสือกับหนังพูดประเด็นของผู้หญิงประเด็นเดียวกันเป๊ะๆ แต่ใช้วิธีการเล่าด้วยเทคนิคคนละอย่าง และมันดีมากๆ ทั้งคู่ งานนี้คนเขียนบทหนังแม่งเอาอยู่จริงๆ เก่งมากๆ
ฉากอารมณ์ๆ ที่ทำให้เราร้องไห้พร้อมกับกงยูเลย คือฉากโต๊ะในครัวที่กงยูยื่นคลิปในมือถือให้ภรรยาดู เพื่อที่จะบอกว่าเธอป่วยนะ ไปหาจิตแพทย์เถอะ และกงยูก็พูดว่า “ผมกลัวมากเลยรู้ไหมที่จะสูญเสียคุณไป และผมไม่อยากเห็นคุณเป็นทุกข์อย่างนี้เพราะเป็นภรรยาผม” เชรี้ย ฉากนี้โคตรอิน และฉากนี้คือฉากที่ไม่มีอยู่ในหนังสือ
ขอบคุณหนังที่หันมองกลับมาที่ผู้ชายบ้างว่า ไอ้ระบบสังคมห่วยๆ ที่ให้ผู้ชายเป็นใหญ่แล้วกดขี่ผู้หญิงมาตลอดเนี่ย ผู้ชายบางคนก็ไม่ได้ปลื้มกับสิ่งนี้หรอกนะ แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแก้ไขให้มันดีขึ้นยังไง
สิ่งที่ผมว่าดีที่สุดของหนังซึ่งเหมือนกับหนังสือก็คือ มันได้สร้างกระแสให้คนในสังคมจากเกาหลี และทั่วโลกหันมาคุยกันจริงๆ จังๆ ซะทีว่าเราจะเปลี่ยนวัฒนธรรมผู้ชายเป็นใหญ่นี่กันได้ยังไงบ้าง แน่นอนว่ามีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจนเป็นกระแสตีกลับ Anti Feminist เต็มไปหมด แต่อย่างน้อยมันก็ได้สร้างบทสนทนากับประเด็นนี้ขึ้นแล้ว
ขอบคุณหนังจริงๆ นะที่ทำให้เราเริ่มคิดว่า เออเนอะ การที่คุณแม่ต้องอุ้มลูกเข้าไปฉี่ด้วย หรือต้องปลอบลูกที่ร้องไห้ตอนทำกาแฟหกในร้านกาแฟ หรือการต้องลาออกจากงานที่กำลังรุ่งมาเลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน มันเครียดและกดดันแค่ไหน
ไปดูเหอะ แม้ว่าตอนเดินออกจากโรงคุณจะไม่เข้าใจสักนิดว่า เรื่องพวกนี้มันไม่เห็นจะน่าเป็นปัญหาอะไรนักหนา แต่อย่างน้อยถึงคุณไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่คุณทำได้ก็คือคุณกำลังจะบอกผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆ คุณทุกคนว่า คุณแคร์พวกเธอ#MeToo