Every Day a Good Day (Japan,2018)
a.k.a. Nichinichi kore kôjitsu
“วันนี้ วันไหน ก็วันดี”
คือป้ายหน้าห้องเรียนชงชาของโนริโกะ หญิงสาววัย 20 ปีที่เพิ่งจบการศึกษาแต่ยังไม่รู้ว่าจะสมัครงานไปทำอะไรต่อเลย เธอจึงใช้เวลาบ่ายวันเสาร์เรียนชงชากับเซนเซ ซึ่งทีแรกเธอไม่ค่อยมั่นใจด้วยซ้ำว่าจะไหวไหม เพราะใครๆ ก็พูดว่าเธอช่างซุ่มซ่ามเหลือเกิน
“โลกเรามีอยู่ 2 สิ่ง
สิ่งที่เราเข้าใจได้เลย
กับสิ่งที่เราต้องใช้เวลานานในการเข้าใจ”
หนังดรามาเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นนี่มันจับใจได้ทุกเรื่องสินะ หนังค่อยๆ เล่าช่วงชีวิต 24 ปีของผู้หญิงคนหนึ่ง ผ่านฉากการเรียนชงชาแบบนิ่งสงบเรียบเรื่อย ฤดูแล้วฤดูเล่า ปีแล้วปีเล่า จากนักเรียนใหม่เด๋อด๋าทำอะไรก็ผิด กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในพิธีกรรมโบราณที่ทำอะไรซ้ำไปซ้ำมา
“ปีใหม่อีกแล้วนะ เราทำอะไรซ้ำเหมือนเดิมทุกปีเลย
แต่มาคิดๆ ดู การที่ยังได้ทำอะไรเหมือนเดิมก็เป็นความโชคดีของชีวิตมากๆ” เซนเซหญิงชราพูดขึ้นมา
ชอบมากๆๆๆ ที่หนังสะท้อนให้เห็นฤดูกาลของชีวิตของคน ความสุข ความสูญเสีย การเปลี่ยนแปลง การตั้งคำถาม และการค้นหาเป้าหมายของชีวิต ทั้งหมดนี่เอามาเปรียบเทียบกับพิธีชงชาแบบโบราณอันอ่อนโยน นุ่มนวล สงบ และอยู่กับปัจจุบัน
“ในที่สุดฉันก็ได้ยินเสียงฝนในวันฝนตก
ได้เห็นหิมะในฤดูหนาว
ได้สัมผัสไออุ่นของฤดูร้อน
และได้สัมผัสความเหน็บหนาวจนแสบผิวของฤดูหนาว”
ข้างห้องชงชาของเซนเซมีสวนญี่ปุ่น เอาจริงก็เป็นสวนที่ไม่ได้หรูหราอะไร แต่การที่ได้จิบชานั่งนิ่งๆ มองดูความเปลี่ยนแปลงของสวน มันทำให้เราได้เห็นความรุ่มรวยของชีวิตนะ โดยเฉพาะช่วงกำลังจะเปลี่ยนฤดู และแต่ละฤดูกาลก็จะมีวิธีการชงชาที่ไม่เหมือนกัน มันเหมือนถ้าเราใส่ใจ สงบและฟังชีวิต เราทุกคนก็สามารถมองเห็นความสวยงามของชีวิตนี้ได้
“ในที่สุดฉันก็สามารถได้ยินเสียงของน้ำ
น้ำร้อนก็แบบหนึ่ง น้ำเย็นก็แบบหนึ่ง
น้ำร้อนมีความหนักแน่นสุขุม
น้ำเย็นมีความสดชื่นสดใส”
โห ดูหนังเรื่องนี้แล้วแบบว่าเปิดผัสสะของตัวเองมาก เออเนอะ ท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตเราแทบไม่ได้ใช้ความรู้สึกสัมผัสกับธรรมชาติ หรือไม่ได้เพ่งมองชีวิตสักเท่าไหร่เลย ชีวิตมันเลยเหมือนอยู่ในหมอกขุ่นมัว แต่พอได้หยุดจิบชาร้อนๆ มองการเปลี่ยนแปลงของสวนบ้าง มันก็ทำให้ใจสงบพอที่จะรู้ได้ว่า นี่คือวันดีๆ อีกวันหนึ่งนะ
“มองดูถ้วยชาใบนี้ให้ดี สัมผัสผิวไปรอบๆ มัน
จงดูให้เห็นว่า ถ้วยชาที่ดีคืออย่างไร”
ชอบอีกประเด็นที่เซนเซสอนนักเรียนว่า เวลาชงชาให้แขก หรือแม้แต่สามีซึ่งเจอกันทุกวัน ให้ชงด้วยความรู้สึกที่ว่านี่อาจจะเป็นครั้งเดียวที่เราจะได้นั่งจิบชากินขนมด้วยกัน ชีวิตไม่เคยให้เวลาเราเตรียมใจเลยว่าความสูญเสีย การจากลาจะเข้ามาสู่ชีวิตเมื่อไหร่
“ในสมัยเด็กที่พ่อกับแม่พาฉันไปดูหนังของเฟลินี่ เรื่อง La Strada ฉันไม่ชอบเลย สู้หนังดิสนีย์ก็ไม่ได้
แต่พอโตขึ้นแล้วกลับไปดูหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะอีกกี่ครั้ง ฉันร้องไห้ทุกครั้งเลย รู้สึกว่าชีวิตไม่ควรพลาดสิ่งที่ดีอันนี้”
ดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า ใจเย็นๆ กับชีวิตกันบ้างนะครับ เรื่องบางเรื่องของชีวิตมันอาจต้องใช้เวลานานหน่อยในการทำความเข้าใจกับมัน วันนี้ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร แต่พออยู่ๆ วันหนึ่งที่เราเข้าใจมันขึ้นมา มันจะเป็นสิ่งที่สวยงามมากๆ เลย มันคือฤดูกาลของชีวิตนะ
“วันนี้ วันไหน ก็วันดี”
Have a good day นะครับ
#Netflix