Elephant (Poland, 2022)
a.k.a. Słoń
เมื่อวันก่อนมีคนถามผมว่า ถ้าผมมีโอกาสใช้ชีวิตเป็นอมตะอยากทำอะไร ผมตอบไปว่า อยากลองใช้ชีวิตแบบอื่นอีกหลายๆ แบบ ที่จริงนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ผมชอบดูหนังก็ได้ และวันนี้ผมได้เป็นหนุ่มทำฟาร์มที่โปแลนด์
หนังดราม่าบรรยากาศหนาวเย็นอึดอัดของหมู่บ้านเล็กๆ ในโปแลนด์ เรื่องของ บาเทค หนุ่มวัยยี่สิบกว่าๆ ที่ต้องอยู่บ้านเพื่อดูแลแม่ที่ป่วยซึมเศร้า กับฟาร์มเลี้ยงม้าของครอบครัว เขารับจ้างทำงานแทบทุกอย่างที่ทำได้เพื่อประคองชีวิตเหงาๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนบ้านตาย และลูกชายที่ทิ้งไป 10 กว่าปีกลับมาจัดการงานศพ ชีวิตของบาเทคก็สดใสขึ้นมาวูบนึง
“คนในหมู่บ้านเริ่มเม้าถึงนายนะ”
“เขาพูดว่ายังไง”
“รู้ใช่ไหม ไม่ว่าเธอจะเป็นอะไร ฉันจะยังรักนายเสมอ”
“เป็นอะไร?”
“เป็นช้าง”
เพื่อนบ้านใจดีพูดจาอ้อมๆ เพื่อให้กำลังใจบาเทค แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เล่าถึงบรรยากาศโฮโมโฟเบียสุดโต่งของชนบทของโปแลนด์ไปด้วย นี่คือหนังที่ดูไปก็อึดอัดไปว่า เฮ้ย มันจะอะไรกันนักหนากับคนที่เขาเป็นเกย์วะ ขนาดพูดคำว่าเกย์ออกมาตรงๆ ยังพูดไม่ได้เลย ต้องพูดว่า เป็นช้าง แทนไรงี้
ดูเผินๆ นี่อาจจะเป็นหนังแนวๆ คุณจะเลือกเป็นเกย์ หรือเลือกโกหกต่อไป แต่ดูให้ลึกลงไป ผมพบว่าหนังเรื่องนี้พูดเรื่องชีวิตยากๆ คุณจะเลือกยังไง ถ้าต้องเลือกระหว่างครอบครัว ซึ่งคืออดีต กับการมีชีวิตของตัวเอง
ชอบสัญลักษณ์หนึ่งในหนังมากคือ มันจะมีแม่น้ำในหมู่บ้านที่ม้าตัวโปรดของบาเทคกลัวไม่กล้าก้าวข้าม มันเหมือนเส้นที่ขีดให้บาเทคเหมือนกัน มันมีเส้นกั้นบางๆ ในใจไม่ให้เขาก้าวข้ามออกจากบ้าน ซึ่งมีแม่ที่อยู่ภาวะซึมเศร้าพึ่งพาเขาแบบติดหนึบ เขาจะทิ้งแม่ออกจากหมู่บ้านนี่ได้จริงๆ เหรอ
แต่เราทิ้งชีวิตของเราเพื่อดูแลใครไม่ได้ เพราะเราต้องมีชีวิตก่อน เราเป็นคนอื่นอย่างที่โลกอยากให้เป็นไม่ได้ ชีวิตนี้เราเป็นได้แค่สิ่งที่เราเป็น เราไม่มีทางรักคนผิด ถ้ามันเป็นความรักซึ่งมอบอิสระ ไม่ใช่ความรักที่กักขัง
ภาพของบาเทค ขณะควบม้าทะยานไปในทุ่งหญ้าเขียวขจี บอกเล่าทุกอย่างไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว บางครั้งความสุขของชีวิตของเราเอง เราก็ต้องไขว่คว้ามาด้วยตัวเอง บางครั้งโลกก็ไม่ได้ใจดีกับเราขนาดนั้น เราต้องเลือกเองว่าจะเอายังไง