CODA (US,2021)

Joe Readery
2 min readMar 26, 2022

--

I’ve looked at love from both sides now

วินาทีนี้เลย ฉันกำลังมองเห็นความรักทั้งสองด้าน

ฉันจำได้ว่า…เพลงนี้ทำให้ฉันร้องไห้หนักมาก หนักมากๆๆๆๆ ในวันที่เหรียญของความรักทอยออกเป็นด้านแห่งความเจ็บปวด แต่วันนี้หนังเรื่องนี้กำลังทำให้ฉันร้องไห้หนักมากๆๆๆ อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเป็นอีกด้านของเหรียญ ด้านของความรักที่สวยงาม สวยงามมากๆๆๆๆ

ไม่รู้จะพูดยังไงตอนนี้มันจุกๆ อ่ะ มีหลายประเด็นในหนังเรื่องนี้มากซะจนฉันกลัวว่าจะทำลายความ speechless ที่หนังมอบให้กับฉัน บางครั้งความรักมันอธิบายมาเป็นคำ หรือเป็นภาษาแบบที่คนทั่วไปเข้าใจไม่ได้หรอกนะ แต่ถ้าเราใช้หัวใจอธิบาย ใช้หัวใจเปิดรับฟัง เราจะได้ยิน และเราจะได้ยินมันชัดเจนมากๆ เลยแหละ

เรื่องราวของ รูบี้ ลูกสาวคนเล็กในบ้านที่คนทั้งบ้าน พ่อ แม่ พี่ ล้วนเป็นคนหูหนวก รูบี้ต้องช่วยครอบครัวสื่อสารกับโลกทั้งใบให้ทุกคน บ้านชาวประมงที่หากินจากการออกเรือหาปลา และความแตกต่างของพวกเขามันไม่ได้ทำให้ชีวิตนั้นง่ายนักหรอก ชีวิตมันยาก แต่ครอบครัวก็มีความสุขพอสมควร

Calling ของรูบี้คือตอนที่เธอเลือกเข้าชมรมประสานเสียงตามผู้ชายคนที่เธอแอบชอบ มิสเตอร์วี ครูสอนดนตรีเรียกให้เธอออมาร้องเพลงอะไรก็ได้เพื่อคัดกลุ่มนักร้อง เธอกลัวแล้วก็วิ่งหนีไป สำหรับเธอที่ผ่านมาการร้องเพลงเป็นแค่การร้องเล่นๆ บนเรือตอนออกหาปลาแค่นั้น แต่มันแค่นั้นจริงเหรอ พระเจ้ามีวิธีในการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความฝันลงในหัวใจพวกเราทุกคน มันต้องอึดอัดอยู่ใต้พื้นดินอยู่นานเลยแหละ แต่สักวัน สักวันนะยอดอ่อนของความฝันมันจะแทงยอดขึ้นมาหายใจเหนือพื้นดิน ความฝันของรูบี้ก็กำลังแตกยอด

“เราอยากให้คนที่เรารักเหมือนเรานั่นแหละ เพราะเรากลัวเขาไม่รักเรา หรือไม่เข้าใจเรา”

ระหว่างดูฉากที่รูบี้ถามแม่ของเธอว่า แม่อยากให้หนูเกิดมาหูหนวกเหมือนแม่ไหม แล้วแม่ก็เล่าถึงวันที่เธอเกิด หมอกำลังทดสอบการได้ยินของทารกแรกเกิด ลูกสาวของแม่ แม่อธิษฐานขอพระเจ้าให้ลูกหูหนวกเหมือนแม่ เพราะแม่กลัวว่า เส้นด้ายที่ผูกและพันความเป็นแม่กับลูกสาวจะหายไป ถ้าลูกได้ยินเสียงเหมือนคนปกติ แม่จะไม่สามารถเข้าใจลูกได้ทั้งหมด และลูกอาจจะอายที่จะมีแม่หูหนวก ตอนที่ดูฉากนี้ผมคว้ามือถือขึ้นมาแล้วพิมพ์ประโยคนี้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

“เราอยากให้คนที่เรารักเหมือนเรา เพราะเรากลัวเขาจะไม่รักเรา หรือจะไม่เข้าใจเรา”

Oh, but now old friends they’re acting strange

And they shake their heads and they tell me that I’ve changed

เพื่อนเก่าๆ บอกว่าฉันทำตัวแปลก

พวกเขาไม่เข้าใจ เหนื่อยหน่าย

และบอกซ้ำๆ ว่าฉันเปลี่ยนไป

ประโยคนี้ในเพลง Both Side Now ของ Joni Mitchell ทำให้ผมร้องไห้โฮๆ ผมจำได้ว่าตอนที่ผมบาดเจ็บจากความรัก ผมฟังเพลงนี้ไปล้านรอบได้มั้ง ผมร้องไห้กับมัน ผมร้องไห้ที่วันนั้นผมได้สัมผัสด้านที่เจ็บปวดแตกสลาย หลังจากที่ได้สัมผัสด้านแห่งความสุขมาแล้ว วันนั้นผมคิดว่า โอ้ นี่ผมกำลังได้รู้จักอีกด้านของความรักแล้วเหรอเนี่ย

แต่เรื่องมหัศจรรย์กำลังเกิดกับผมอีกครั้ง วันนี้น้ำตาที่ไหล ผมรู้เลยว่า ผมร้องไห้ให้กับความสุข ความงาม และความจริงของความรัก โอ้ ครอบครัวในหนังเรื่อง CODA มันทำให้ผมเห็นความรักที่สวยงามจริงๆ ใช่ล่ะ เราอาจจะไม่ต้องเข้าใจกันทั้งหมดก็ได้ แต่ถ้าเรารัก แต่ถ้ามันคือความรัก เราจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่การันตีว่าจะเข้ามาสู่ชีวิตได้แน่ๆๆๆๆๆ ความรักมันไม่ได้มีแต่ด้านที่ทุกข์ร้อน มันมีด้านที่สุขเย็นด้วย

I’ve looked at love from both sides now

From give and take and still somehow

ฉันมองไปที่ทั้งสองด้านของความรัก

ไม่ว่าพระพร หรือความสูญเสีย

บางทีฉันอาจจะยังไม่รู้จักความรักเลยด้วยซ้ำ

วันนี้หนังเรื่อง CODA ทำให้ผมได้เห็นชีวิตของตัวเองทั้งสองด้านชัดเจนมากเลยครับ ผมเห็นเรื่องนี้ ผมเห็นว่าเราทุกคนนะจะมีเมล็ดพันธุ์ของความฝันที่สวยงามมากๆ ที่พระเจ้าเพาะเอาไว้ในหัวใจตั้งแต่เราเกิด มันเป็น purpose มันคือเป้าหมาย มันคือตัวตนที่เป็นเรามากๆๆๆๆๆ ในหัวใจเรามีสิ่งนี้

แต่เมล็ดพันธุ์แห่งความฝันของเรานี้ มันต้องเอาไปฝังไว้ในดินก่อน เพื่อรอวันก่อนที่มันจะเติบโตได้ บางครั้ง ไม่สิทุกครั้งนั่นแหละมันจะถูกฝังเอาไว้นานมาก นานมากๆๆๆ เลยแหละ ในช่วงเวลา Dark Moment แบบนี้มันทั้งอึดอัด ทั้งรู้สึก lost เหมือนหลงทาง เหมือนไม่เป็นตัวเอง ที่เรารู้สึกอย่างนั้นก็เพราะมันไม่ใช่ตัวเราไง เราไม่ใช่เมล็ดพืชที่อยู่แต่ในดิน เพราะเราคือต้นไม้ใหญ่ที่รอวันเติบโต

การเติบโตมันเจ็บปวด เพราะเราไม่มีทางอื่นเลยนอกจากต้องทิ้ง เราต้องทิ้งตัวตนเก่า ชีวิตเก่า บางครั้งเราต้องถูกทุบจนแตก เพื่อที่อากาศจะได้แทรกตัวเข้าไป แต่เพลง Both Side Now สอนผมวันนี้ว่า ชีวิตเรามันไม่ได้มีแค่ช่วงเวลาเจ็บปวด หนักหนาสาหัส หลังจากนี้มันจะมีช่วงเวลาที่เรารู้สึกเหมือนบินได้ คนที่กำลังทำตาม Mission หรือกำลังอยู่ในความฝันของชีวิตจะรู้สึกเหมือนบินอยู่บนท้องฟ้ากว้างทั้งนั้น The sky has no limit

การที่คนรอบตัว แม้แต่คนที่รักเราจะไม่เข้าใจเรามันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย บางทีเรายังไม่เข้าใจตัวเองเลย วันนี้เราอาจจะยังไม่เข้าใจชีวิตทั้งหมดหรอก แต่มันจะโอเค

It’s life’s illusions that I recall

I really don’t know life

I really don’t know life at all

ชีวิตมันเป็นดั่งมายา

ฉันไม่รู้หรอกว่าชีวิคืออะไร

ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำ…ชีวิตคืออะไร

CODA เป็นหนังที่วิเศษอะไรเช่นนี้

--

--

Joe Readery
Joe Readery

No responses yet