Center of My World (Germany, 2016)
a.k.a. Die Mitte der Welt
“แม่ครับ ศูนย์กลางของโลกอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”
“ไม่รู้สิ แม่ว่าใจกลางโลกของเราแต่ละคนคงอยู่คนละที่กัน”
เคยน้ำตาไหลเพราะได้ดูอะไรบางอย่างที่มันสวยงามมากๆ ไหม หรือเพราะมันมีพลังสั่นสะเทือนหัวใจให้ร้องไห้เพราะอะไรก็ไม่รู้ ไม่สิ มันอาจจะเป็นการระเบิดขอภูเขาไฟในหัวใจที่มีลาวาเป็นน้ำตา หนังเรื่องนี้ทำงานอย่างนี้แหละ
จำไว้นะโจ้ นายตกหลุมรักหนังเรื่องนี้ นายเก็บเป็นหนังโปรดที่ดูวนไปวนมาได้อีกเรื่อยๆ เลย เรื่องของ ฟิล เด็กมัธยมที่โตมาในบ้านที่มีแค่ 3 คน แม่กับน้องสาวฝาแฝด และก็ผู้ชายของแม่ที่เข้าๆ ออกๆ บ้าน
ชอบประเด็นของหนังมากๆๆๆๆๆ เรื่องของ The Unknown ของชีวิตซึ่งเรามีเรื่องที่เราไม่รู้ แล้วเราเก็บมันไว้เหมือนห้องลึกลับแบบที่เราไม่กล้าเปิดเข้าไปดู ฟิลรู้สึกอย่างนี้มาตลอดเพราะแม่เคยเคยปริปากบอกเขาเลยว่า พ่อของเขาคือใคร
หนังย้ำอีกทีตอนที่ฟิลไปเจอ นิโคลัส เด็กใหม่ซึ่งเขาก็ตกหลุมรักในทันที แต่นอกจาก Sex ที่นิโคลัสมอบให้แบบดีงามสุดๆ เขาก็ไม่เคยเล่าเรื่องตัวเองให้ฟิลเลย มันจึงเป็นหลุมดำอีกหลุมหนึ่งของชีวิตฟิล
แต่อย่างที่รู้ ความลับใดๆ ไม่มีในโลก สักวันความจริงต้องปรากฏ แม้ว่ามันอาจจะมาในตอนที่เราคิดไม่ถึง และมันทำให้เราเจ็บฉิบหาย ฟิลก็ไปเจอสิ่งนั้นคาตา สิ่งนี้มันยิ่งย้ำให้ฟิลกลัวห้องลึกลับของครอบครัวเข้าไปอีก
แต่เหมือนป้าข้างบ้านซึ่งเป็นคนอยู่ข้างๆ ครอบครัวของฟิลเสมอเคยพูดกับฟิลตอนเด็กว่า รู้ไหม ในบ้านเราจะมีห้องที่เราไม่ได้ใช้อยู่เสมอ มันอาจจะปิดประตูอยู่ โดยที่เราก็ลืมไปด้วยซ้ำว่ามีอะไรอยู่ข้างใน เราปิดมันไว้จนกลัวที่จะเปิดเข้าไป แต่เราต้องเก็บกุญแจห้องนั้นไว้เสมอ เพราะใครจะไปรู้ วันหนึ่งห้องนั้นอาจจะเป็นทางออกเดียวของชีวิตของเราก็ได้ โห เป็น Life Lesson ของหนังที่โคตรล้ำ
นอกจากเรื่องเล่าที่สร้างมาจากหนังสือแล้ว น้องฟิลก็เป็นฝรั่งขาวตี๋ไอ้ต้าวน่ารักขาดใจ ถ้าวันไหนกลับมาอ่านโพสต์นี้ กลับไปดูอีกรอบนะโจ้ มันเหมือนเตาอุ่นหัวใจ ให้ข้างในของนายร้อนวาบแบบที่นายสาบานว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อความรู้สึกนี้ มันดี มันดีมากจริงๆ
นี่คือหนังประเภทดูรอบเดียวเก็บรายละเอียดไม่หมด และจงไปหาหนังสือมาอ่านเดี๋ยวนี้ ซื้อๆๆๆ