Celebrity (South Korea,2023)
มีอะไรไม่ปกติหลายอย่างในซีรีส์เรื่องนี้ เช่นเริ่มต้นดูสนุกแบบซีรีส์ระดับ A+ เลย แต่ทำไมจบรวบรัดตัดตอนแบบนี้นะ มันเหมือนควรจะ 16 ตอนแต่ตัดจบเหลือแค่ 12 ตอน แล้วองค์ 3 มันหายไป 4 ตอนอ่ะ
และอีกอันที่สังเกตคือ แต่ละตอนความยาวต่างกันมาก ตั้งแต่ 37 นาที ไปจนถึง 53 นาทีเลย ซึ่งสิ่งนี้ทำกันได้แล้วเนอะ เมื่อมันเป็นซีรีส์ใน Streaming ที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาแบบซีรีส์ในทีวีแบบแต่ก่อน
แต่ไม่ว่าไง EP1–10 ของซีรีส์นี้ก็ยกคะแนน A+++ ให้ไปเลย เรียกว่าใครจะดูก็เตรียมสล็อตเวลาตัวเองให้ว่าง 12 ชั่วโมงด้วย ถ้าเริ่มแล้วมันหยุดไม่ได้หรอกนะ จุดเด่นที่สุดขอยกให้การบาลานซ์น้ำหนักของ Genre หรือหมวดหมู่ของหนังที่ลงตัวที่สุด เมื่อเอา หนังแบบอารมณ์เมโลเจ้ไฮโซตบกัน บวกไขว่ฟ้าคว้าดาว บวกฆาตกรรมลึกลับ บวก Mean Girls เพื่อนทรยศ บุลลี่เพื่อน บวกรักสามเส้าเบาๆ ทั้งหมดที่ดูไม่เข้ากัน แต่พอโขลกรวมกันแล้วอร่อยเฉยเลย ด้วยปริมาณที่ลงตัวนัวที่สุด
เรื่องของนางเอก ซออารี ที่เราเรียกกันว่า ซอยอารี 555 ซึ่งเคยเป็นคุณหนูบ้านรวย แต่ธุรกิจพ่อเจ๊งจนวันนี้ต้องขายตรงเครื่องสำอางเกรดบีให้เหล่าแม่บ้าน จนวันหนึ่งมาเจอเพื่อนเก่าที่วันนี้กลายเป็นเซเลบ IG ไปแล้ว
ที่จริงเราอ่ะ สนุกกับช่วงแรกของซีรีส์มากๆ ช่วงที่นางเอกซึ่งเปิดตัวว่าตายไปแล้ว ฟื้นกลับมาสอนวิชาเป็นเซเลบ มันแบบเหมือนเข้าคลาส Content Creator สนุกๆ เลย ซีรีส์ทำให้เห็นภาพได้เยี่ยมมากว่า จากคนธรรมดาคนหนึ่ง จะกลายเป็นเซเลบต้องทำยังไง อะไรคือการโกหกที่ปะปนไปกับความจริงแล้วมันทำให้คนเชื่อใจ
มันคือวิชาสร้างภาพ ที่ถ้าใช้ในปริมาณกำลังดีมันคงจะดีกับชีวิตนะเราว่า แต่ใครล่ะจะหยุดได้ง่ายๆ ถ้าพอได้รู้ความลับของการมีชื่อเสียงซึ่งถ้ามีแล้ว เงิน และอำนาจมันจะหลั่งไหลมาท่วมบ้านอย่างคาดไม่ถึงเลย ณ จุดนี้ เริ่มสนใจจะเป็นคนดังกับเขาบ้างยัง
สารภาพว่าชอบมุมกล้องใหม่ๆ กับ Art Direction ของซีรีส์นี้มาก เสื้อผ้า หน้าผม คือเป๊ะสาสมกับการเป็นเรื่องของ เซเลบ IG รุ่นใหม่มากถึงมากที่สุด สีและแพทเทิร์นชุดทั้งหมดคือสวยบ้าไปแล้ว ใครได้ดูไม่อยากให้พลาดงานตุ้มหู สร้อย แหวนของทุกฉากเลย งานแต่งหน้าก็สวยมาก แถมยังช่วยเล่าเรื่องแต่ละฉากได้ถูกทุกข้อ
อีกคนที่ข้าพเจ้าขอกราบเลยคือ Acting Coach งานนี้อ่ะ คือดีไซน์อารมณ์ การเคลื่อนไหวของนักแสดง และ Blocking แบบเป๊ะกับ Character แต่ละตัวให้เด่นชัดไม่ตีกันเองสุดๆ แม้ว่าสาวๆ จะจำนวนเยอะ แต่ แต่ละคนก็ไม่ซ้ำทางกันเลยสักคนเดียวเว้ย เออ ว่าไปเรื่องนี้น่าเอาไปสอนในคลาสสอนดูหนังนะ สกิลทำหนังผู้กำกับไปสุดมาก
แต่ก็สารภาพว่ามีปัญหากับธีมหรือประเด็นที่ผู้กำกับนำเสนอนิดหน่อย แบบคิดไม่เหมือนกัน เหมือนทีมงานจะมองว่าการเป็นเซเลบดังจากโซเชียลจะต้องสร้างภาพ หรือถ้าอยากดังมากก็ต้องโกหกเท่านั้น ซึ่งเราว่าไม่จริงเสมอไป
แต่ซ้อนแต่อีกที เราก็ชอบประเด็นรองๆ ของซีรีส์ที่พูดถึงแอคหลุม สายเกรียน รวมทั้งคอมเมนต์คลั่งของแฟน กับแอนตี้แฟนที่รุนแรงพอกัน ถือว่าเป็นประเด็นที่ใหม่มากๆๆๆ ที่ยังไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหน แล้วเล่าออกมาได้ถึงใจเรามาก แต่อีกรอบ เราได้กลิ่นผู้กำกับแอบมีอคติกับคัลเจอร์แฟนด้อมนิดหน่อยนะ หรืออันนี้เราอาจจะคิดมากไปเอง ถ้าดูข้ามๆ ซีรีส์มันก็สนุกมากๆ จนเพลินเอาอยู่
ในขณะที่ความสนุกมากถึงมากที่สุด คือนางเอกที่เพิ่งเปิดแอคเคาท์ IG มี Follwer 0 คน จนถึงหลัก K จนถึงหลัก M แล้วต้องเจอแรงต้านจากเหล่านางอินฟลูรุ่นก่อนๆ เรื่องต่อนนี้คือสนุกมากๆๆๆ ดูแบบหนัง Heist สนุกๆ ได้เลย แต่เรากลับไม่ชอบต่อนที่เป็นเรื่องรักระว่างนางเอกกับพระเอกเลยอ่ะ ลำใย 555 มันไม่มีเหตุผลเลยอ่ะ ทำไมเขาสองคนต้องรักกันด้วยวะ นี่ถ้าตัดออกไปเลยแบบพวก Sky Castle หรือ The World of Married Couple คงจะดีมาก
เอาล่ะ ไม่อยากให้รู้สึกว่าเราเอาแต่ด่า 555 เพราะที่จริงเราตกหลุมรักงานดีไซน์ทั้งหมดของซีรีส์เรื่องนี้มากๆๆๆ เสื้อผ้าสวยบาดใจจริงๆ ขอย้ำอีกสิบที สีคือส่วนที่ดีที่สุดของซีรีส์ การ์ตูนบางเรื่องยังทำสีไม่สวยเท่าเรื่องจากคนแสดงเรื่องนี้เลย
สุดท้ายขอยืนปรบมือให้ พัคกยูยอง น้องติ๋มจาก It’s Okay to Not Be Okay มายืนหนึ่งเป็นเซเลบ IG เรื่องนี้ได้นางพญามากแม่ สวยตะโกนแบบไม่กล้ากระพริบตา เรานะถึงกับดูผมของนางแล้วอุทานออกเสียงว่า ผมสวยจังด้วยล่ะ 555
แต่ที่สุดของที่สุดของที่สุดของที่สุด ขอยกให้ชุดผ้าทวีดของอีฟว์ แซ็ง โลร็อง กระเป๋าเบอร์กิ้น แอร์เมส รองเท้าบอตเตก้า เวเนต้า และสร้อยคอ ชาแนล ที่ถมแบบมึงบ้าหรือเปล่าอีทีมงาน ไม่อยากจะคิดถึงค่า Security มาดูแลของพวกนี้เลย ชีวิตนี้คงไม่ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเหล่านี้มารวมกันได้เยอะที่สุดเท่านี้อีกแล้ว แต่ในเมื่อเขารวบตึงมาให้ดูแล้ว จงดูเหอะ โอย ใจจะละลาย