A Moment in the Reeds (Finland,2017)

Joe Readery
1 min readMay 6, 2021

--

ผมชอบดูหนังจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่ผมรู้จักน้อย ผมชอบดู Culture ของเขา คนที่นั่นเขากินอะไร อยู่บ้านแบบไหน คุยเรื่องอะไรกัน และผมก็ชอบดูความเป็นมนุษย์ที่เขาเหมือนกับเรา โกรธ เศร้า รัก มีความฝันแบบเดียวกับเราเป๊ะเลย

เรื่องของ เลวี เด็กหนุ่มชาวฟินแลนด์ซึ่งพักเรียน กลับมาช่วยพ่อซ่อมกระท่อมริมทะเลสาบ หลังจากที่แม่เขาเสียชีวิต เขาหนีชีวิตที่ฟินแลนด์ไปเรียนที่ปารีส เขาเกลียดฟินแลนด์มากๆ

หนังฟินแลนด์นี่บอกเลยว่ามันฟินแล๊นฟินแลนด์ คือฟินแลนด์เนี่ยมันคือบิดาแห่ง Minimalism อยู่แล้ว พวกเขาชอบความอะไรที่มันน้อยๆ เล็กๆ หนังเรื่องนี้ก็เหมือนกัน เล่นกัน 3 คน เลวี พ่อ และก็ช่างหนุ่มชาวซีเรีย

พ่อจ้างคนงานมาช่วยซ่อมกระท่อม เป็นผู้อพยพชาวซีเรียที่พูดฟินนิชไม่ได้ เขาเคยเป็นสถาปนิกตอนอยู่บ้านเกิด แต่ต้องลี้ภัยสงครามข้าวทวีปมาจนถึงฟินแลนด์ เขาแพลนว่านี่คือบ้านแห่งใหม่ของเขา

ในคืนที่พ่อไม่อยู่บ้าน ชายหนุ่มสองคนจากสองประเทศคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ของแต่ละประเทศกัน เลวีแนะนำให้หนุ่มซีเรียรู้จักซาวน่าของชาวฟินนิช การเล่นน้ำในทะเลสาบ และช่างหนุ่มชาวซีเรียก็กินเบียร์โชว์ และก็สอนให้เลวีรู้ว่าหนุ่มตะวันออกกลางจูบเก่งแค่ไหน

กำลังนึกว่าจะอธิบายความชอบความน้อยในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง คือมันน้อยยิ่งกว่าน้อยอ่ะ แต่ Conflict มันก็น่าสนใจนะ เรื่องของหนุ่มคนหนึ่งเกลียดที่นี่สุดต้องการหนีไป หนุ่มอีกคนหนึ่งเพิ่งมาถึงที่นี่และต้องการเรียกที่นี่ว่าบ้าน แล้วสองคนนี้ก็มาตกหลุมรักกัน มันเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง หนังมันถึงชื่อว่า ชั่วขณะหนึ่งของต้นอ้อริมทะเลสาบไง

ผมตกหลุมรักอะไรหลายอย่างในหนังเรื่องนี้มากเลย อย่างแรกคือ Setting กระท่อมไม้เล็กๆ ริมทะเลสาบ คือทั้งเรื่องอ่ะ Set Design มันมีแต่ต้นไม้ ป่าเขียวๆ แต่เขียวแบบหลายสีมากนะ ทะเลสาบก็มีแสงแดดสะท้อนวิบวัน ท้องฟ้าในหนังให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่มืดยันสว่างสดใส หรือแสงยามเย็นสีส้มเป็นริ้วสวยงามสุด

ชอบสิ่งที่ตัวละครกินคือ ขนมปัง 1 แผ่น ชีส 1 แผ่น แฮม 1 แผ่น จบแค่นี้เลยในหนึ่งมื้ออาหารของเขา ชอบไดอะล็อกกับแอคติ้งมากๆๆๆๆๆ คือผู้กำกับเนี่ยไม่ได้มีบทเป๊ะๆ ให้ แต่ให้นักแสดง improvised หรือพูดบทกันเองไปเรื่อยๆ ด้วยภาษาอังกฤษแบบที่ตัวละครก็พูดไม่คล่อง เพราะเป็นชาติที่ไม่ได้เก่งอังกฤษ แต่ก็ต้องใช้สื่อสารกัน ยิ่งตอนจีบกันมันช่างน่าร้ากกก

ในแง่ความ Dramatized ก็เริ่ดอ่ะ คือพอสองหนุ่มเอิงเอยกันเสร็จ เราคนดูก็ดูด้วยความลุ้นว่าเมื่อไหร่จะโดนพ่อจับได้ คือในเรื่องพ่อจะแบบหัวโบๆ นิดหน่อยแบบยังไม่โอเคกับการมีลูกเป็นเกย์สักเท่าไหร่ เราก็ดูไปลุ้นไปว่า เดี๋ยวพ่อมา เดี๋ยวพ่อมา ลุ้นสัส 555 แต่เอาจริงประเด็นที่ใหญ่และซ่อนตัวอยู่ตลอดเรื่องคือ คนเราที่มาจากต่างที่ต่างวัฒนธรรม ต่างความฝัน ต่างกันเต็มไปหมดเลยเนี่ย มันจะรักกันได้จริงๆ เหรอ

“So what เลวี หลังจากนั้นคือ So what” หนุ่มชาวซีเรียถามเลวี ว่าอาทิตย์หน้านายก็ต้องกลับซีเรียแล้ว เรื่องของเราจะยังไงต่อ

“ปารีสอยู่ใกล้แค่นี้เอง นายไปหาฉันเมื่อไหร่ก็ได้นี่” เลวีตอบ

“ใช่ๆ ฉันก็อยากไปปารีส ไปเที่ยวประเดี๋ยวประด๋าว แต่สุดท้ายฉันก็ต้องกลับมาที่นี่อยู่ดี ที่ๆ นายเกลียด แต่สำหรับฉันมันคือบ้าน”

“เราลืมๆ ทุกปัญหาไปสักแป๊ปเถอะ Live by the moment กันเถอะนะ มีความสุขกับตอนนี้”

นี่ละครับหนังที่ชื่อ A Moment in the Reeds ชั่วขณะของต้นอ้อริมทะเลสาบ Less is More

--

--

Joe Readery
Joe Readery

No responses yet